หลักสูตรอบรมเพาะเห็ดอย่างมืออาชีพ คิดไกลกว่าแค่ดอกเห็ด
 |
| ผู่ที่เข้ารับการอบรม รุ่นที่ 78 |
หลักสูตรอบรมเพาะเห็ดอย่างมืออาชีพ จะเน้นทั้งทางทฤษฎี และปฎิบัติควบคู่กันไป เพียง 1วัน เริ่มตั้งแต่ 8.00-18.00น. บอกได้คำเดียวว่าเป็นที่เดียวในประเทศครับ.. ที่สามารถสอนได้ครบภายใน1วัน "การอบรมมากวัน มันง่ายๆครับและลงทุนน้อย คุณทำอะไรพรุ่งนี้ก็เอามาสอนต่อ แต่สอน1วันเราต้องเตรียมทุกอย่างทั้งหมด เท่าที่คุณทำ และต้องใช้อาจารย์ผู้ช้วยไม่ต่ำกว่า 10คนกับลูกศิษย์เพียง30คน" นี่แหละที่ไม่มีใครทำได้ การเตรียมงานก่อนอบรมไม่ต่ำกว่า 7วัน และเป็นระบบ พลาดไม่ได้ ทุกครั้งที่มีการอบรม เราต้องเตรียม เชื้อ ก้อนเห็ด อาหารในวุ้น ตู้เขี่ยเชื้อ และอุปกรร์การเขี่ยเชื้อให้พอใน25คน และเสร็จได้ใน1วัน
คุณต้องรู้เท่าผม
 |
| คุณต้องเก่งเท่าผม ในแนวคิด"ของ ของ กู" |
ผมไม่ใช่เกษตรกร และนักวิชการเกษตร ผมเป็นวิศวะ..ครับ ผมไม่เชื่อว่าการสอนในแบบที่นักวิชาการเกษตรสอน โดยผ่านข้อมูลที่แทบจับต้องไม่ได้ พูดไปยิ่งไม่รู้เรื่องเหมือนโชว์อวดความรู้ในตำราฝรั่ง ที่รำเรียนมา แถมยังใช้เครื่องมือตั้งแต่เขี่ยเชื้อถึงทำก้อนเห็ด ราคารวมกันกว่า 2-3 แสนบาท เช่นหม้อแรงดัน ตู้เขี่ยเชื้อ ห้องปลอดเชื้อ และหม้อนึ่งก้อนเห็ดเป็นต้น "มันสอนจนเราทำไม่ได้" อีกอย่างหนึ่งผมก็อยู่ไม่ได้ถ้าผมทำงานได้300บาทต่อวัน อย่างเกษตรกร รายการทีวีมักสัมภาษผมว่า "ทำมัย?? วิศวกรมาทำเกษตร" คำตอบง่ายๆ คือ "เกษตรทำเงินได้มากกว่าอาชีพ วิศวะ ครับ" "แต่คุณต้องไม่ทำเกษตรอย่างเกษตรกร และนักวิชาการเกษตร ที่มุ่งเน่นไปที่ทำผลผลิตออกทุกวัน และไปขายตลาด เพราะคำตอบอย่างที่เห็น..ออกไปปิดถนนเดินตากแดด อดข้าว ประท้วง ราคาไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ นั่นแหละ คำตอบว่าทำมัยผมไม่ยอมรับว่า ผมคือเกษตรกร และนักวิชาการเกษตร...."จัดรูปแบบความคิดใหม่ ต้องยอมรับและใช้เทคโนโลยี่มาทำเกษตร ต้องเรียนรู้การตลาดปรับจากขายผ่านพ่อค้าคนกลางมาเป็นเจ้าของตลาดเสียเอง ในรูปบบ Digital Marketing พวกเราต้องมี Smart Phone ใช้Internet /Line /Google/Facebook/website/YouTubeให้เป็น เพราะมันของฟรี..ครับ และมันมีคนในนั้นพร้อมเป็นลูกค้าของเรากว่า 28 ล้านคน..ผมไม่ขายของผ่านคนเพียงคนเดียวในตลาด(พ่อค้าคนกลาง) แต่ผมและบ้านเห็ดทุกคน กำลังขายของให้กับคนทั้งโลกครับ เรามีตลาดใหญ่มาก และพวกเค้าชอบสินค้าของเรา
ทำอย่างไรให้คุณเก่งเท่าผมใน1วัน
เป็นไปได้ครับที่การเรียน 1วันแล้วเก่งเท่ากับอาจารย์เลย โดยใช้แนวคิดแบบ
"ของ ของ กู Model" (คลิกดูรายละเอียด)คือต้องคิดว่าทุกอย่างที่อาจารย์สอน ไม่ว่าสิทธิบัตรทางปัญญาของบ้านเห็ด เรื่อง อุปกรณ์กระจายหมอกน้ำยูเล็ม/ตู้เขี่ยเชื้อกระดาษ/หม้อนึ่งโคตรร้อน/แป้นเห็ดชนิดถอดและใส่กลับได้/จุกขวดก้อนเห็ดชนิดกันน้ำกันหนู/หลักสูตรการอบรม ตลอดจนศูนย์เรียนรู้บ้านเห็ด
ต้องเป็นของกู(ไม่ใช่ของอาจารย์) รวมทั้งตัวอาจารย์ และอาจารย์ผู้ช้วยทุกคนด้วย ต้องเป็นของกูทั้งหมด
ถ้าคิดได้อย่างนี้1วันคุณเก่งเท่าผมได้ และ 1วันผมก็เก่งเท่าพวกคุณทุกคนได้เช่นกัน
ไม่ต้องลงทุนเราพร้อมเดินหน้าได้เลย และต้องไปพร้อมๆกัน ในเมื่อทุกอย่างเป็นของ ของ กู แล้ว การแบ่งปันผลประโยชน์เลยตกอยู่ที่
50:50 งัยครับ และด้วยแนวคิดแบบนี้ ทำให้บ้านเห็ดมีสาขาบ้านเห็ด กว่า100สาขาและมีทุกจังหวัดในประเทศ คิดอย่างนี้แหละเมื่อลูกศิษย์ถามผม
"อาจารย์ถ้าจะทำเห็ดเงินล้านจะต้องลงทุนเท่าไร?? ใช้ที่มากมั้ย " ผมตอบว่า "ศูนย์บาทครับ" เพราะคุณมีทุกอย่างพร้อมแล้วนี่..ตรงนี้งัย แล้วจะต้องลงทุนอะไรอีกครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น